พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 กำหนดว่าห้ามมิให้ผู้ใด ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น เว้นแต่จะกระทำภายในเขตที่ได้จำแนกไว้เป็นประเภทเกษตรกรรม และรัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาหรือโดยได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยการขออนุญาตและการอนุญาตดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งต่อมาได้มีกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. 2558 กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า โดยข้อ 4 กำหนดให้อธิบดีกรมป่าไม้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจอนุญาตตามมาตรา ๕๔ และเนื่องจากมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 กำหนดว่าในกรณีที่พื้นที่ป่าชายเลนหรือป่าชายเลนอนุรักษ์อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือป่าให้บรรดาอำนาจหน้าที่ของอธิบดีกรมป่าไม้ตามกฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติหรือกฎหมายว่าด้วยป่าไม้เป็นอำนาจหน้าที่ของอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง การพิจารณาอนุญาตตามกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. 2558 ในพื้นที่ป่าชายเลนหรือป่าชายเลนอนุรักษ์ที่อยู่ในเขตป่า จึงอยู่ในอำนาจของอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และโดยที่ข้อ 36 และข้อ 37 ของกฎกระทรวงดังกล่าวยังให้อธิบดีมีอำนาจในการกำหนดสถานที่ยื่นคำขอ และกำหนดแบบคำขอ แบบใบอนุญาตและแบบอื่นๆ โดยให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจึงได้มีการจัดทำประกาศกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เรื่อง กำหนดสถานที่ยื่นคำขอ กำหนดแบบคำขอ แบบใบอนุญาต และแบบอื่นๆ ในการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่าชายเลนหรือป่าชายเลนอนุรักษ์ ตามกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. 2558 ขึ้น เพื่อให้การขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่าที่เป็นพื้นที่ป่าชายเลนหรือป่าชายเลนอนุรักษ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยต่อไป
พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 กำหนดว่าห้ามมิให้ผู้ใด ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น เว้นแต่จะกระทำภายในเขตที่ได้จำแนกไว้เป็นประเภทเกษตรกรรม และรัฐมนตรีได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาหรือโดยได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยการขออนุญาตและการอนุญาตดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งต่อมาได้มีกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. 2558 กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า โดยข้อ 4 กำหนดให้อธิบดีกรมป่าไม้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจอนุญาตตามมาตรา ๕๔ และเนื่องจากมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 กำหนดว่าในกรณีที่พื้นที่ป่าชายเลนหรือป่าชายเลนอนุรักษ์อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือป่าให้บรรดาอำนาจหน้าที่ของอธิบดีกรมป่าไม้ตามกฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติหรือกฎหมายว่าด้วยป่าไม้เป็นอำนาจหน้าที่ของอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง การพิจารณาอนุญาตตามกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. 2558 ในพื้นที่ป่าชายเลนหรือป่าชายเลนอนุรักษ์ที่อยู่ในเขตป่า จึงอยู่ในอำนาจของอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และโดยที่ข้อ 36 และข้อ 37 ของกฎกระทรวงดังกล่าวยังให้อธิบดีมีอำนาจในการกำหนดสถานที่ยื่นคำขอ และกำหนดแบบคำขอ แบบใบอนุญาตและแบบอื่นๆ โดยให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจึงได้มีการจัดทำประกาศกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เรื่อง กำหนดสถานที่ยื่นคำขอ กำหนดแบบคำขอ แบบใบอนุญาต และแบบอื่นๆ ในการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่าชายเลนหรือป่าชายเลนอนุรักษ์ ตามกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่า พ.ศ. 2558 ขึ้น เพื่อให้การขออนุญาตและการอนุญาตทำประโยชน์ในเขตป่าที่เป็นพื้นที่ป่าชายเลนหรือป่าชายเลนอนุรักษ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยต่อไป
(0.10 Mb) .PDF
(7.06 Mb) .pdf